ไลโคปีน (Lycopene) คือ สารประกอบในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (carotenoid) ชนิดหนึ่งใน 600 ชนิด มีรงควัตถุ ( Pigment ) สีแดง ละลายได้ดีในไขมัน
แหล่งที่พบ
พบได้ทั่วไปในมะเขือเทศสุก ฝรั่ง (pink guava) แตงโม ส้ม มะละกอ แครอท ส้มโอสีชมพู ฟักข้าว และในผักผลไม้สีแดงต่างๆ (ยกเว้นสตรอเบอร์รี่และเชอร์รี่) แต่ไม่พบในสัตว์ และร่างกายมนุษย์ไม่สามารถสังเคราะห์ไลโคปีนเองได้ ดังนั้นเราจึงต้องรับประทานไลโคปีนเข้าไปจากผักผลไม้ หรืออาหารเสริม
จากการศึกษาวิจัยพบว่าไลโคปีนที่ผ่านกระบวนการใช้ความร้อน (heat processed-lycopene) เช่น การปรุงอาหาร ร่างกายจะสามารถดูดซึมไปใช้ได้ดีกว่าไลโคปีนในธรรมชาติ นอกจากนั้น การใช้ความร้อนในการประกอบอาหารยังทำให้ไลโคปีนที่อยู่ในผนังเซลล์ของผักและ ผลไม้ละลายออกได้มากขึ้น ทำให้ดูดซึมในระบบย่อยอาหารได้ดีกว่ารับประทานแบบสดถึง 2.5 เท่า ดังนั้นหากจะรับประทานผักและผลไม้เพื่อให้ร่างกายได้รับไลโคปีน จึงควรนำผักและผลไม้ไปปรุงให้สุกก่อน
ขนาดรับประทาน
ร่างกายของคนเราควรได้รับปริมาณไลโคปีน อย่างน้อย 6.5 มก.ต่อวัน ซึ่งเทียบได้กับการทานมะเขือเทศเป็นส่วนประกอบในอาหาร 10 ครั้งต่อสัปดาห์
ประโยชน์ของไลโคปีน
- ป้องกันและยับยั้งมะเร็ง จากงานวิจัยพบว่า การรับประทานอาหารที่มีปริมาณไลโคปีนสูง เช่น มะเขือเทศ ติดต่อกัน พบว่า สามารถลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งในต่อมลูกหมากได้ถึง 34% และหากพบว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากแล้ว การรับประทานสารสกัดจากมะเขือเทศที่ประกอบด้วยไลโคปีน 30 มิลลิกรัมต่อวัน จะช่วยลดความรุนแรงของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากถึง 53% โดยจะช่วยลดการเจริญเติบโตของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในคนไข้หลังจากการรักษาโรคมาแล้ว 3 สัปดาห์ สำหรับมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกนั้น ไลโคปีนอาจมีส่วนสำคัญในการลดการเกิดเนื้องอกและยับยั้งการพัฒนา วงจรชีวิตของเซลล์ในช่วงต้นของการเกิดเซลล์มะเร็ง (ระยะ G1)
- การรับประทานไลโคปีนในปริมาณสูงยังช่วยยั้บยั้ง เอนไซม์สำคัญที่ใช้ สังเคราะห์โคเลสตรอรอล และเร่งสลายโคเลสตรอรอลชนิดไม่ดี LDL (Low Density Lipoprotein) ที่มีส่วนทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดแข็งตัว
- ช่วยให้ผิวดูสวย อมชมพูมีเลือดฝาด เพราะ รงควัตถุสีแดงในไลโคปีน ทำให้ผิวของผู้รับประทานขาวอมชมพู แบบเดียวกับสีของมะเขือเทศ
- ลดริ้วรอย ชะลอความแก่ ไลโคปีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยชะลอความแก่ชรา บำรุงผิวพรรณ ผิวดูสุขภาพดี สดใส ไลโคปีนเป็นแคโรทีนอยด์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากมีโครงสร้างที่ต่อกันเป็นสายยาวกว่า ดังรายงานการศึกษาเปรียบเทียบผลในการต้านอนุมูลอิสระในหลอดทดลอง พบว่าไลโคปีนมีฤทธิ์ที่ดีกว่าเบต้าแคโรทีนและแอลฟาโทโคฟีรอลถึง 2 และ 10 เท่า
- ช่วยให้ผิวแข็งแรง การรับประทานสารไลโคปีน 16 กรัมต่อวันติดต่อกันนาน 10 สัปดาห์ จะช่วยลดอัตราของอาการ เผาไหม้ของผิวหนังจากแสงอาทิตย์ลง 40% เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่รับประทานอาหารเสริมให้ผิวขาว เพราะปกติเมื่อทานอาหารเสริมให้ผิวขาว ผิวก็จะไวต่อแสงมาก ผิวไหม้ และคล้ำแดดเร็ว
ข้อควรระวัง ไลโคปีนมีความปลอดภัย หากรับประทานไม่เกิน 75 มิลลิกรัมต่อวัน ไลโคปีน เป็นสารที่ละลายในไขมัน จะสะสมไว้ที่ตับ หากสะสมมากเกิน ไปจะทำให้ตัวเหลือง คลื่นไส้ หากรับประทานไลโคปีน ในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารก็ไม่ควรบริโภคมากกว่าปริมาณที่กำหนดไว้บนฉลากบรรจุภัณฑ์